Blog

งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

ในยุคที่การก่อสร้างต้องเน้นความรวดเร็ว ประหยัดต้นทุน และคงความแข็งแรง “เมทัลชีท (Metal Sheet)” ได้กลายเป็นหนึ่งในวัสดุที่ตอบโจทย์เหล่านี้ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า อาคารพาณิชย์ หรือบ้านเรือนทั่วไป การใช้เมทัลชีทในการก่อสร้างหลังคาและผนังมีข้อดีมากมาย ตั้งแต่ความเบา แข็งแรง ทนทาน ไปจนถึงการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม การติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Structure and Roof Installation) ไม่ใช่เรื่องเพียงแค่เอาแผ่นเมทัลชีทมายึดเรียงบนโครง หากแต่ต้องมีการวางแผนเรื่องโครงสร้าง (Structure) ให้ได้มาตรฐาน เลือกรูปแบบและชนิดของเมทัลชีทที่เหมาะสม รวมถึงเทคนิคการติดตั้งที่ถูกต้อง บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกถึงความสำคัญของเมทัลชีท วิธีการเลือกใช้งาน ขั้นตอนการติดตั้งโครงสร้าง ไปจนถึงเคล็ดลับการดูแลรักษา เพื่อให้อาคารของคุณมีคุณภาพและใช้งานได้ยาวนาน

รู้จักเมทัลชีท (Metal Sheet) และข้อดี

1.1 เมทัลชีทคืออะไร

“เมทัลชีท” (Metal Sheet) หมายถึงแผ่นโลหะที่ถูกรีดเป็นรูปทรงต่าง ๆ เพื่อใช้งานเป็นวัสดุก่อสร้างหรือหลังคา โดยทั่วไปผลิตจากเหล็กกล้า (Steel) เคลือบสารกันสนิม เช่น อลูมิเนียม ซิงก์ หรือผสมกัน เช่น Galvalume (55% Al, 43.4% Zn, 1.6% Si) เพื่อเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน

1.2 ข้อดีของเมทัลชีท

  1. น้ำหนักเบา: เทียบกับวัสดุแบบดั้งเดิม (กระเบื้อง ซีเมนต์) เมทัลชีทมีน้ำหนักเบากว่าอย่างชัดเจน ลดภาระโครงสร้างได้ดี

  2. ติดตั้งรวดเร็ว: แผ่นเมทัลชีทมีขนาดยาวต่อเนื่อง ไม่ต้องซ้อนแผ่นมาก ทำให้ติดตั้งได้ไว ประหยัดเวลาค่าแรง

  3. ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน: ด้วยการเคลือบสารกันสนิม ทำให้ทนต่อสภาพอากาศ ไม่เปราะแตกง่าย

  4. บำรุงรักษาง่าย: ทำความสะอาดสะดวก น้ำหนักเบาจึงตรวจสอบภายหลังติดตั้งได้ง่าย

  5. มีหลายรูปแบบและสีสัน: นอกจากหลังคายังสามารถใช้เป็นผนังอาคารได้ รวมถึงเลือกลอนสูง ต่ำ หรือสีตามสไตล์อาคาร

การเลือกเมทัลชีทให้เหมาะกับงานก่อสร้าง

  1. ชนิดของเหล็กและสารเคลือบ:

    • Galvanized Steel (GI): เคลือบด้วยซิงก์ ป้องกันสนิมได้ระดับหนึ่ง

    • Galvalume or Zincalume Steel: ผสมอลูมิเนียมและซิงก์ ป้องกันสนิมได้ดีกว่าเดิม อายุใช้งานยาวขึ้น

    • เลือกความหนา (Thickness) ตามความเหมาะสม เช่น 0.3-0.5 มม. สำหรับงานทั่วไป หรือหนาขึ้นสำหรับงานที่รับน้ำหนักมาก

  2. ลอนและรูปทรง:

    • ลอนมาตรฐาน (Trapezoidal): เหมาะกับหลังคาส่วนใหญ่ มีความแข็งแรงรับน้ำหนักได้ดี

    • ลอนสเปน (Spanish Tile): เลียนแบบกระเบื้องลอนโค้ง ให้ความสวยงามคล้ายหลังคาดั้งเดิม

    • ลอนวี หรือครอบคลุม (Ribbed Profile): รูปแบบเป็นแนวสันหรือครีบ ช่วยรีดน้ำและเพิ่มความแข็งแรง

  3. คุณสมบัติพิเศษ:

    • เมทัลชีทบุฉนวน (PU, PE, PS): ช่วยลดความร้อน และลดเสียงรบกวน

    • เคลือบสีพิเศษ (Color Coated): ให้สีสันหลากหลาย ป้องกันการซีดจางและสะท้อนความร้อน

การเตรียมโครงสร้างสำหรับการติดตั้งเมทัลชีท (Structure Preparation)

  1. การวางแผนรูปแบบหลังคา:

    • พิจารณาลักษณะอาคาร: หลังคาทรงจั่ว, ทรงเพิงหมาแหงน, ทรงโค้ง ฯลฯ เพื่อวางแนวคานและรับน้ำหนักอย่างเหมาะสม

    • คำนวนโหลด (Load) ที่หลังคาต้องรับ เช่น น้ำหนักเมทัลชีท, ลม, น้ำฝน

  2. เลือกวัสดุโครงสร้าง:

    • เหล็กรูปพรรณ (Beam) หรือ เหล็กกล่อง (Square Tube): เป็นโครงสร้างนิยมในงานหลังคาเมทัลชีท เพราะง่ายต่อการติดตั้งและเชื่อมต่อ

    • ไม้: อาจใช้ในงานบ้านหรืออาคารเล็ก ๆ แต่มักจะไม่ทนทานในระยะยาวเท่าเหล็ก

  3. ออกแบบระยะหวาง (Span) และองศาความชัน (Roof Slope):

    • Span: ควรเลือกขนาดและระยะห่างของแปหรือคาน (Purlin) ให้เหมาะสมกับความหนาเมทัลชีท

    • ความชัน: โดยทั่วไปความชันควรมากกว่า 5 องศาเพื่อให้ระบายน้ำฝนได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากชันน้อยเกินไป อาจมีปัญหาน้ำรั่วซึมหรือไหลย้อน

  4. การเสริมความแข็งแรง:

    • ติดตั้งค้ำยัน (Bracing) เพื่อป้องกันการบิดตัวของโครงสร้างเมื่อรับแรงลมแรง หรือแรงอื่น ๆ

    • ตรวจสอบคุณภาพการเชื่อม (Welding) เพื่อให้แน่ใจว่าโครงสร้างจะไม่แตกร้าวเมื่อเวลาผ่านไป

ขั้นตอนการติดตั้งหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Roof Installation)

  1. ตรวจสอบโครงสร้างก่อนติดตั้ง

    • ตรวจวัดระดับความเรียบของโครง สภาพการเชื่อมจุดต่าง ๆ

    • ทำความสะอาดพื้นผิวหากมีฝุ่นหรือคราบมันที่อาจก่อให้เกิดสนิมในอนาคต

  2. เตรียมเมทัลชีท (Cutting & Labeling)

    • ตัดแผ่นเมทัลชีทตามความยาวและรูปทรงหลังคาที่ต้องการ อาจมีการเจาะรูหรือตัดมุมล่วงหน้าเพื่อการติดตั้งที่รวดเร็ว

    • ติดฉลากหรือหมายเลข (Label) ในแต่ละแผ่นเพื่อระบุจุดวางแผ่นที่ถูกต้อง

  3. การวางแผ่นเมทัลชีทบนโครง

    • เริ่มจากด้านล่างขึ้นบน เพื่อให้การซ้อนทับ (Overlap) ละลายได้แนบสนิทกับลอนเมทัลชีท

    • ใช้สกรูยึดเมทัลชีทคุณภาพสูง: แนะนำสกรูปลายสว่าน (Self-Drilling Screw) ที่เคลือบสารกันสนิมและมีแหวนยางรอง (Washers) ป้องกันน้ำรั่ว

  4. การต่อแผ่น (Overlap) และเทคนิคป้องกันการรั่วซึม

    • โดยทั่วไปการต่อแผ่นด้านข้าง (Side Lap) จะทับกัน 1-2 ลอน และส่วนปะทะลม (End Lap) มักทับกันประมาณ 150-200 มม. (ตามคำแนะนำผู้ผลิต)

    • ใช้ซิลิโคนหรือเทปกันซึม (Butyl Tape) บริเวณจุดต่อแผ่นหรือสันลอน เพื่อลดโอกาสน้ำรั่ว

  5. ติดตั้งอุปกรณ์เสริม (Flashing & Ridge Cap)

    • อุปกรณ์กันรั่วตามขอบผนัง (Wall Flashing) และสันหลังคา (Ridge Cap) ช่วยป้องกันน้ำฝนย้อนเข้าได้ดี

    • การยึดและตั้งค่าองศาที่ถูกต้องสำคัญมากในการป้องกันลมฝนรุนแรง

  6. ตรวจสอบความเรียบร้อยและทำความสะอาด

    • ล้างคราบฝุ่น เศษโลหะหรือสกรูที่ตกค้าง เพื่อป้องกันสนิม

    • ตรวจสอบว่าการยึดแน่นและไม่มีรอยรั่วซึม โดยเฉพาะบริเวณจุดต่อแผ่นและสันลอน

ข้อควรระวังและการดูแลรักษาหลังการติดตั้ง

  1. ป้องกันการกัดกร่อน (Rust & Corrosion)

    • หากเมทัลชีทถูกขีดข่วนให้เห็นเนื้อเหล็ก ควรรีบทำสีหรือซ่อมแซมเพื่อป้องกันสนิม

    • เลือกใช้สารเคลือบหรือสีรองพื้น (Primer) เพิ่มความทนทาน

  2. หลีกเลี่ยงการเดินบนหลังคาโดยไม่จำเป็น

    • แม้เมทัลชีทจะรับน้ำหนักได้ แต่การเดินบ่อยอาจก่อให้เกิดรอยบุบหรือความเสียหายต่อสันลอน ควรใช้บันไดหรืออุปกรณ์เฉพาะ

  3. ตรวจสอบเป็นระยะ (Preventive Maintenance)

    • แนะนำให้ตรวจเช็กสภาพหลังคาและสกรูยึดทุก 6-12 เดือน

    • ทำความสะอาดใบไม้ กิ่งไม้ หรือสิ่งสกปรกที่ค้างบนหลังคา เพื่อป้องกันน้ำขังและสนิม

  4. จัดการระบบระบายน้ำ (Gutter & Downspout)

    • สร้างรางน้ำฝน (Gutter) และท่อระบายน้ำ (Downspout) ที่มีขนาดเหมาะสม ป้องกันน้ำล้นหรือไหลย้อนบริเวณส่วนต่อ

ประโยชน์ระยะยาวของโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีทคุณภาพ

  1. ลดการดูแลรักษา (Low Maintenance)
    ระบบหลังคาเมทัลชีทที่ติดตั้งอย่างถูกต้อง มีอายุการใช้งานยาว ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อม

  2. ป้องกันการรั่วและความเสียหายจากสภาพอากาศ
    หากออกแบบโครงสร้างและมุมองศาหลังคาที่ถูกต้อง หลังคาเมทัลชีทจะช่วยป้องกันลมและฝนที่อาจรุนแรง

  3. เสริมภาพลักษณ์และความคุ้มค่าต่ออสังหาริมทรัพย์
    หลังคาเมทัลชีทสวยงามและทันสมัย ช่วยเพิ่มคุณค่าและราคาของอาคารในระยะยาว

  4. ประหยัดพลังงาน
    หากเลือกเมทัลชีทเคลือบสีสะท้อนความร้อน หรือบุฉนวนด้านใน จะช่วยลดอุณหภูมิภายในอาคาร และลดค่าไฟจากการใช้เครื่องปรับอากาศ

  5. รองรับการขยาย/ปรับปรุงอาคาร
    เนื่องจากโครงสร้างเหล็กและเมทัลชีทติดตั้งได้ง่าย จึงสามารถต่อเติมหรือขยายโครงสร้างได้โดยไม่ต้องรื้อถอนครั้งใหญ่

 สรุป งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Structure and Roof Installation Work)” ไม่ได้เป็นเรื่องที่เน้นแค่การเลือกแผ่นเมทัลชีทแล้วมามุงเรียงต่อกันเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบโครงสร้าง ขนาดและประเภทวัสดุ การติดตั้งอย่างถูกวิธี ไปจนถึงการดูแลรักษาหลังการใช้งาน

เมทัลชีทมีจุดเด่นเรื่องความเบา ติดตั้งง่าย ทนทาน และประหยัดเวลา ทั้งยังมีฉนวนหรือสีเคลือบที่ช่วยต้านทานความร้อนและการกัดกร่อน จึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับอาคารสมัยใหม่ แต่การจะได้ผลลัพธ์ที่ดีต้องเริ่มจาก “การวางแผนและเลือกใช้บริการ” ที่น่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน และมีประสบการณ์โดยตรง

เมื่อดำเนินการครบทุกขั้นตอนอย่างถูกต้อง อาคารหรือโครงสร้างที่ใช้หลังคาเมทัลชีทจะมีความแข็งแรง ออกแบบมาเพื่อรองรับสภาพอากาศหลากหลาย เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโกดัง บ้าน คลังสินค้า อาคารพาณิชย์ หรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ สุดท้ายแล้ว งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีทที่มีคุณภาพย่อมช่วยลดปัญหาการรั่วซึม ลดภาระบำรุงรักษา และเพิ่มมูลค่าให้แก่อสังหาริมทรัพย์ได้ในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม:

บริการติดตั้งตัวตรวจจับควันและความร้อนสำหรับห้องปฎิบัติการ Smoke and heat detector installation service for laboratories

Share this post :

Related Post

บริการทำความสะอาดภายในท่อลม ท่อแอร์ ท่อดูดควัน

บริการทำความสะอาดภายในท่อลม ท่อแอร์ ท่อดูดควัน Cleaning service inside the air duct, air pipe, smoke exhaust pipe

ในยุคที่การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ภายในอาคารเป็นสิ่งสำคัญ “ระบบท่อลม” ไม่ว่าจะเป็นท่อลมแอร์ (Air Duct) หรือท่อระบายอากาศอื่น ๆ (Smoke Exhaust Pipe) กลับถูกมองข้ามบ่อยครั้ง ทั้งที่สิ่งสกปรก แบคทีเรีย และฝุ่นละอองสามารถสะสมอยู่ภายในท่อเหล่านี้ได้จำนวนมาก จนนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพ และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศและระบายอากาศลดลง การทำความสะอาดท่อลมและท่อดูดควัน (Duct Cleaning) จึงไม่ใช่เพียงการกำจัดฝุ่น แต่เป็นการยกระดับสุขอนามัยภายในอาคาร ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ไปจนถึงบ้านพักอาศัย

Read More »
บริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม Demolition services for buildings and industrial plants

บริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม Demolition services for buildings and industrial plants

การรื้อถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (Demolition) ไม่ใช่แค่การทุบทิ้งสิ่งก่อสร้างเก่าเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อให้การรื้อถอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงกล่าวได้ว่าบริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (Demolition Services for Buildings and Industrial Plants) คือกระบวนการสำคัญที่มีบทบาทมากในแวดวงก่อสร้างยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความสำคัญของงานรื้อถอน วิธีการวางแผน ปัจจัยความปลอดภัย เทคนิคต่าง

Read More »
บริการทำความสะอาดระบบสครับเบอร์และแพ็คกิ้งมีเดีย wet Scrubber and packing media cleaning service

บริการทำความสะอาดระบบสครับเบอร์และแพ็คกิ้งมีเดีย wet Scrubber and packing media cleaning service

“มลพิษทางอากาศ” ถือเป็นหนึ่งในปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญระดับโลก และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้คนและสภาพแวดล้อมอย่างมาก ในภาคอุตสาหกรรม โรงงานผลิต และสถานประกอบการหลายแห่ง ต่างมีระบบบำบัดไอเสียหรือมลพิษที่ออกสู่อากาศภายนอก โดยเฉพาะระบบ “สครับเบอร์แบบเปียก (Wet Scrubber)” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดความเข้มข้นของสารมลพิษ รวมถึงกลิ่นไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตาม การใช้งานระบบสครับเบอร์ในระยะยาวอาจเกิดการสะสมของคราบหรือการอุดตันใน “แพ็คกิ้งมีเดีย (Packing Media)” อันเป็นชิ้นส่วนที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการบำบัด หากขาดการทำความสะอาดและบำรุงรักษาอย่างเหมาะสม ประสิทธิภาพของระบบจะลดลง และอาจก่อให้เกิดปัญหาอื่นตามมาได้ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจความสำคัญของ บริการทำความสะอาดระบบสครับเบอร์และแพ็คกิ้งมีเดีย (Wet

Read More »