Blog

บริการตรวจเช็คประสิทธิภาพ ซ่อมบำรุงตู้ดูดควัน pm fume hood

เมื่อพูดถึงงานในห้องปฏิบัติการ (Laboratory) ไม่ว่าจะเป็นด้านการวิจัย การเรียนการสอน หรือกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม “ตู้ดูดควัน (Fume Hood)” ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ปฏิบัติงานสูดดมสารเคมีอันตรายหรือสัมผัสไอระเหยที่อาจเป็นพิษต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม การปล่อยให้ตู้ดูดควันทำงานไปเรื่อย ๆ โดยไม่ตรวจสอบสภาพหรือซ่อมบำรุงอย่างสม่ำเสมอ อาจนำไปสู่การลดลงของประสิทธิภาพ และที่แย่ไปกว่านั้นคือเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยสูง

ด้วยเหตุนี้เอง “บริการตรวจเช็คประสิทธิภาพและซ่อมบำรุงตู้ดูดควัน (PM Fume Hood)” จึงถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบ ปรับแก้ไข และฟื้นฟูสภาพการทำงานของตู้ดูดควันให้คงอยู่ในระดับมาตรฐาน ช่วยยืดอายุการใช้งานและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้ตลอดเวลา บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับความสำคัญของตู้ดูดควัน ขั้นตอนหลักในการตรวจเช็คประสิทธิภาพ และเคล็ดลับการบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี

ความสำคัญของตู้ดูดควัน (Fume Hood) ในห้องปฏิบัติการ

  1. ป้องกันการสัมผัสสารเคมีอันตราย
    สารเคมีบางประเภทที่ใช้ในงานทดลองอาจมีไอระเหย หรือสารพิษที่สามารถเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจ การทำงานภายในตู้ดูดควันจะช่วยดูดเอาไอระเหยเหล่านั้นออกไปจากพื้นที่ปฏิบัติงาน ลดโอกาสที่ผู้ปฏิบัติงานจะได้รับผลกระทบทางสุขภาพ

  2. ควบคุมการแพร่กระจายของสารเคมี
    นอกจากป้องกันการสูดดมแล้ว การทำงานภายในตู้ดูดควันยังช่วยควบคุมไม่ให้สารเคมีอันตรายกระจายไปยังส่วนอื่นของห้อง หรือฟุ้งกระจายสู่อากาศภายนอก ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

  3. รองรับงานทดลองหลากหลาย
    ตู้ดูดควันถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการทำปฏิกิริยาเคมีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปฏิกิริยาที่ปล่อยไอระเหยเป็นกรดหรือด่าง หรือการเผาไหม้ที่อาจปล่อยก๊าซพิษ ตู้ดูดควันจะทำหน้าที่กรองและระบายก๊าซเหล่านั้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  4. ส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัย
    การลงทุนกับอุปกรณ์เช่นตู้ดูดควัน เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุและการเกิดผลเสียต่อสุขภาพของบุคลากรในห้องปฏิบัติการ

ทำไมต้องตรวจเช็คประสิทธิภาพ (PM) ตู้ดูดควันอยู่เสมอ

  1. รักษามาตรฐานความปลอดภัย
    หลังจากใช้งานไปนาน ๆ ประสิทธิภาพของพัดลมดูดอากาศ ฟิลเตอร์ หรือท่อระบายอาจเสื่อมลง ถ้าไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ อาจเกิดการรั่วซึม หรือการดูดไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ปฏิบัติงานเสี่ยงต่อการสูดดมสารเคมี

  2. ยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
    ตู้ดูดควันเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาค่อนข้างสูง การบำรุงรักษาอย่างถูกวิธี เช่น การเปลี่ยนฟิลเตอร์ตามกำหนด หรือการตรวจเช็กสภาพมอเตอร์พัดลม จะช่วยให้ตู้ดูดควันทำงานได้ดีและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

  3. ประหยัดพลังงาน
    หากระบบระบายอากาศทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ มอเตอร์พัดลมอาจต้องใช้กำลังสูงขึ้น หรือมีการเปิดใช้งานนานเกินไป ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานโดยไม่จำเป็น การ PM อย่างถูกต้องจะช่วยปรับแต่งให้ระบบทำงานได้อย่างสมดุล

  4. เป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐาน
    ในบางอุตสาหกรรมหรือหน่วยงาน อาจมีข้อกำหนดด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยที่เข้มงวด การทำ PM ตู้ดูดควันตามระยะเวลา จะช่วยให้ผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอกหรือการประเมินตามมาตรฐานได้ง่าย

ขั้นตอนหลักในการตรวจเช็คประสิทธิภาพและซ่อมบำรุงตู้ดูดควัน (PM Fume Hood)

  1. ประเมินสภาพภายนอก

    • ตรวจสภาพโครงสร้างตู้ดูดควัน เช่น ผนังตู้ บานหน้าต่าง กระจก หรือบานเลื่อน ว่ามีรอยร้าวหรือจุดชำรุดหรือไม่

    • เช็กขอบยางซีล (Gasket) รอบ ๆ บานเลื่อนหรือช่องเปิด ว่ายังแนบสนิทไม่เสื่อมสภาพ

  2. ตรวจสอบระบบพัดลมและท่อระบายอากาศ

    • วัดอัตราการไหลของอากาศ (Air Flow) ว่ายังเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ หากพบว่าต่ำกว่าปกติ อาจเกิดจากฟิลเตอร์อุดตันหรือมอเตอร์ทำงานผิดปกติ

    • ตรวจเช็กมอเตอร์พัดลม สายพาน และจาระบีหล่อลื่น หมั่นเปลี่ยนหรือปรับแต่งตามสภาพการใช้งาน

    • สำรวจท่อระบายว่าไม่มีรอยรั่ว หรือสิ่งกีดขวางภายในท่อ เช่น ฝุ่น กิ่งไม้ หรือรังสัตว์

  3. ประเมินระบบฟิลเตอร์และสารกรอง

    • ฟิลเตอร์แบบ Activated Carbon หรือ HEPA Filter ในบางตู้ดูดควัน ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลาที่กำหนด หรือขึ้นอยู่กับปริมาณสารเคมีที่ดูด

    • หากฟิลเตอร์สกปรกหรืออุดตัน ระบบจะดูดสารเคมีได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดกลิ่นหรือไอระเหยหลุดรอดออกมา

  4. ทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ควบคุม

    • บางตู้ดูดควันมีระบบควบคุมอัตราการไหลของอากาศอัตโนมัติ หรือเซ็นเซอร์เตือนความผิดปกติ ควรตรวจว่าเซ็นเซอร์ยังทำงานแม่นยำหรือไม่

    • ตรวจสอบแผงควบคุม (Control Panel) และไฟฟ้าภายใน ว่าไม่มีการลัดวงจรหรืออุปกรณ์ชำรุด

  5. ตรวจดูการทำงานของเสียงและการสั่นสะเทือน

    • หากพัดลมทำงานเสียงดังผิดปกติหรือมีการสั่นสะเทือนสูง อาจบ่งชี้ว่ามอเตอร์หรือตลับลูกปืนเสื่อมสภาพ ควรรีบซ่อมแซมก่อนเกิดความเสียหายร้ายแรง

  6. ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อภายในตู้

    • ภายในตู้ดูดควันอาจสะสมคราบสารเคมีหรือฝุ่นอยู่ ควรทำความสะอาดด้วยน้ำยาที่เหมาะสม และเช็ดให้แห้งเพื่อป้องกันการกัดกร่อนหรือการปนเปื้อนในอนาคต

    • หากต้องการฆ่าเชื้อ อาจใช้แอลกอฮอล์ หรือสารฆ่าเชื้อที่ไม่กัดกร่อนพื้นผิวของตู้

  7. บันทึกผลการตรวจเช็คและซ่อมแซม

    • ควรจัดทำบันทึกหรือรายงาน PM ที่ระบุรายละเอียดผลการตรวจ สภาพอุปกรณ์ งานซ่อมที่ดำเนินการ รวมถึงระยะเวลาที่จะต้องตรวจซ้ำครั้งถัดไป เพื่อการวางแผนบำรุงรักษาในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เคล็ดลับการบำรุงรักษาตู้ดูดควันอย่างถูกวิธี

  1. เลือกใช้งานตู้ดูดควันให้เหมาะสมกับสารเคมี

    • หากในห้องปฏิบัติการมีการใช้งานสารเคมีที่เป็นกรด-ด่างรุนแรง หรือสารอินทรีย์ระเหยง่าย ต้องเลือกตู้ดูดควันที่มีวัสดุและสารกรองเหมาะสม พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ

  2. ตั้งเวลาตรวจสอบเป็นประจำ

    • ควรกำหนดรอบการ PM หรือการตรวจสอบ เช่น ทุก 3 เดือน หรือทุก 6 เดือน ขึ้นอยู่กับความถี่และความเข้มข้นของสารเคมีที่ใช้

    • หากเป็นห้องแล็บที่ใช้งานหนัก ควรตั้งรอบการตรวจสอบถี่ขึ้น

  3. รักษาความสะอาดในแต่ละวัน

    • แม้จะมีการ PM อยู่แล้ว แต่ผู้ใช้งานก็ควรทำความสะอาดตู้ดูดควันหลังใช้งานเสร็จในแต่ละวัน เช่น เช็ดคราบสารเคมีบนผิวตู้หรือพื้นผิวด้านใน

    • อย่าปล่อยให้มีอุปกรณ์หรือขวดสารเคมีเกะกะภายในตู้ เพราะจะทำให้การไหลของอากาศไม่ดี

  4. อย่าปรับแต่งระบบโดยไม่มีความรู้

    • บางคนอาจเข้าไปปรับตำแหน่งบานเลื่อนหรือความเร็วพัดลมโดยไม่มีความรู้ ซึ่งอาจทำให้ระบบดูดอากาศผิดสมดุล ควรให้ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบหรือปรึกษาผู้ผลิตก่อน

  5. ระวังการปิดตู้ทันทีหลังใช้งาน

    • แม้ว่าตู้ดูดควันจะหยุดปฏิกิริยาแล้ว แต่ไอระเหยบางชนิดอาจยังคงหลงเหลืออยู่ ควรรอให้พัดลมทำงานต่ออีกสักครู่ เพื่อให้สารเคมีถูกดูดออกจนหมด

  6. ให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมผู้ใช้งาน

    • บุคลากรที่ใช้ตู้ดูดควันควรผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง ข้อควรระวัง และวิธีจัดการเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น การหกรดของสารเคมีภายในตู้

ผลลัพธ์ที่ได้จากการดูแลตู้ดูดควันอย่างสม่ำเสมอ

  1. ความปลอดภัยของบุคลากร
    เมื่อระบบดูดควันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ บุคลากรในห้องปฏิบัติการจะลดโอกาสสัมผัสสารเคมีที่อันตรายต่อสุขภาพ และทำให้เกิดอุบัติเหตุน้อยลง

  2. อายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
    การดูแลรักษาเปรียบเสมือนการยืดอายุให้ตู้ดูดควัน ทั้งฟิลเตอร์ พัดลม และโครงสร้าง วัสดุภายในก็จะคงทน ใช้งานได้คุ้มค่าลงทุน

  3. ประหยัดต้นทุนระยะยาว
    หากเกิดการเสียหายร้ายแรง ต้องเปลี่ยนตู้ดูดควันใหม่จะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่การ PM และซ่อมบำรุงเป็นประจำจะช่วยลดโอกาสเกิดความเสียหายใหญ่ และยังประหยัดค่าพลังงาน

  4. เป็นไปตามมาตรฐานและข้อกำหนด
    ในกรณีที่หน่วยงานภายนอกมาตรวจสอบ เมื่อพบว่าตู้ดูดควันมีระบบบำรุงรักษาและผ่านการตรวจเช็คอย่างเป็นระเบียบ ก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กร

  5. สิ่งแวดล้อมภายในห้องแล็บที่ดียิ่งขึ้น
    การที่ไอระเหยหรือกลิ่นสารเคมีต่าง ๆ ถูกจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ห้องแล็บเป็นพื้นที่ที่น่าอยู่ น่าทำงาน ผู้อยู่ในห้องแล็บก็คุ้นเคยและทำงานได้สบายใจยิ่งขึ้น

การเลือกผู้ให้บริการตรวจเช็คประสิทธิภาพและซ่อมบำรุงตู้ดูดควัน

  1. ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ

    • เลือกบริษัทหรือผู้ให้บริการที่มีผลงานและประสบการณ์ตรงในการดูแลตู้ดูดควันในหลากหลายอุตสาหกรรม เพราะแต่ละห้องแล็บมีรูปแบบการใช้งานและสารเคมีแตกต่างกัน

  2. การใช้เครื่องมือวัดที่ได้มาตรฐาน

    • ผู้ให้บริการควรมีอุปกรณ์ตรวจสอบอัตราการไหลของอากาศ (Anemometer) หรือเครื่องมือที่แม่นยำ พร้อมใบรับรองการสอบเทียบ (Calibration)

  3. มีบริการที่ครอบคลุม

    • นอกจากการตรวจเช็คแล้ว ควรมีบริการซ่อมบำรุง เปลี่ยนอะไหล่ ให้คำแนะนำในกรณีที่ระบบต้องปรับปรุงใหญ่ หรือแนะนำการใช้งานที่ถูกต้อง

  4. บริการหลังการขายและการรับประกัน

    • หากระบบมีปัญหาหลังจากซ่อมแล้ว ควรเลือกผู้ให้บริการที่พร้อมกลับเข้ามาแก้ไขอย่างรวดเร็ว โดยมีเงื่อนไขรับประกันที่ชัดเจน

  5. การยึดหลักความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

    • บริษัทที่ดีจะให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยในการใช้งานตู้ดูดควันเพิ่มเติม และปฏิบัติตามกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด รวมถึงสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลระหว่างการซ่อมบำรุงในห้องแล็บ

สรุป บริการตรวจเช็คประสิทธิภาพ ซ่อมบำรุงตู้ดูดควัน pm fume hood

บริการตรวจเช็คประสิทธิภาพ (PM) และซ่อมบำรุงตู้ดูดควัน (Fume Hood)” เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับห้องปฏิบัติการที่มีการใช้งานสารเคมีอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะในสถาบันวิจัย โรงงานอุตสาหกรรม หรือห้องแล็บการศึกษา การลงทุนในกระบวนการบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา การตรวจสอบสภาพอุปกรณ์ การเปลี่ยนฟิลเตอร์ และการซ่อมแก้ไขความบกพร่อง จะช่วยปกป้องบุคลากรจากสารพิษต่าง ๆ และประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ด้วยขั้นตอนการตรวจเช็คตั้งแต่สภาพภายนอก ระบบพัดลม ฟิลเตอร์ ท่อระบายอากาศ จนถึงระบบควบคุมอุปกรณ์ ตู้ดูดควันจึงสามารถรักษาสภาพการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่อง ส่งผลให้การปฏิบัติงานในห้องแล็บเป็นไปอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุและการแพร่กระจายของสารอันตราย

สุดท้ายนี้ การเลือกผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลตู้ดูดควัน พร้อมเครื่องมือวัดมาตรฐาน จะช่วยให้คุณมั่นใจว่าการ PM ของตู้ดูดควันเป็นไปอย่างถูกต้อง น่าเชื่อถือ และคุ้มค่าการลงทุนในระยะยาว เมื่อผู้ใช้งานปฏิบัติตามหลักการใช้งานและบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ก็จะส่งเสริมให้ห้องแล็บเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงสุด และสร้างผลงานวิจัยหรือการผลิตที่ได้คุณภาพอย่างแท้จริง

อ่านเพิ่มเติม:

รับติดตั้งระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ air pollution treatment systems

Share this post :

Related Post

บริการทำความสะอาดภายในท่อลม ท่อแอร์ ท่อดูดควัน

บริการทำความสะอาดภายในท่อลม ท่อแอร์ ท่อดูดควัน Cleaning service inside the air duct, air pipe, smoke exhaust pipe

ในยุคที่การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ภายในอาคารเป็นสิ่งสำคัญ “ระบบท่อลม” ไม่ว่าจะเป็นท่อลมแอร์ (Air Duct) หรือท่อระบายอากาศอื่น ๆ (Smoke Exhaust Pipe) กลับถูกมองข้ามบ่อยครั้ง ทั้งที่สิ่งสกปรก แบคทีเรีย และฝุ่นละอองสามารถสะสมอยู่ภายในท่อเหล่านี้ได้จำนวนมาก จนนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพ และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศและระบายอากาศลดลง การทำความสะอาดท่อลมและท่อดูดควัน (Duct Cleaning) จึงไม่ใช่เพียงการกำจัดฝุ่น แต่เป็นการยกระดับสุขอนามัยภายในอาคาร ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ไปจนถึงบ้านพักอาศัย

Read More »
บริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม Demolition services for buildings and industrial plants

บริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม Demolition services for buildings and industrial plants

การรื้อถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (Demolition) ไม่ใช่แค่การทุบทิ้งสิ่งก่อสร้างเก่าเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อให้การรื้อถอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงกล่าวได้ว่าบริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (Demolition Services for Buildings and Industrial Plants) คือกระบวนการสำคัญที่มีบทบาทมากในแวดวงก่อสร้างยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความสำคัญของงานรื้อถอน วิธีการวางแผน ปัจจัยความปลอดภัย เทคนิคต่าง

Read More »
งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

ในยุคที่การก่อสร้างต้องเน้นความรวดเร็ว ประหยัดต้นทุน และคงความแข็งแรง “เมทัลชีท (Metal Sheet)” ได้กลายเป็นหนึ่งในวัสดุที่ตอบโจทย์เหล่านี้ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า อาคารพาณิชย์ หรือบ้านเรือนทั่วไป การใช้เมทัลชีทในการก่อสร้างหลังคาและผนังมีข้อดีมากมาย ตั้งแต่ความเบา แข็งแรง ทนทาน ไปจนถึงการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Structure and Roof Installation) ไม่ใช่เรื่องเพียงแค่เอาแผ่นเมทัลชีทมายึดเรียงบนโครง

Read More »