Blog

วิธีการทำความสะอาดถังอุตสาหกรรม Tank Cleaning

วิธีการทำความสะอาดถังอุตสาหกรรม

วิธีการทำความสะอาดถังอุตสาหกรรม Tank Cleaning เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้โรงงานหรือสถานประกอบการต่าง ๆ สามารถรักษาคุณภาพของสินค้า ลดการปนเปื้อน และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ถังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าถังนั้นจะใช้สำหรับเก็บวัตถุดิบ สารเคมี น้ำมัน หรือของเหลวอื่น ๆ การดูแลทำความสะอาดอย่างเหมาะสมจะช่วยป้องกันปัญหาอุดตัน การเกิดตะกอน การสึกกร่อน รวมถึงการปนเปื้อนที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพพนักงานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว

ความสำคัญของการทำความสะอาดถังอุตสาหกรรม

  1. รักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือวัตถุดิบ
    ถังอุตสาหกรรมที่ไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอ อาจเกิดการสะสมของตะกอน คราบไขมัน แบคทีเรีย หรือเชื้อโรคอื่น ๆ ซึ่งอาจปนเปื้อนลงในวัตถุดิบหรือสินค้าที่เก็บไว้ในถัง เช่น ถังเก็บน้ำมัน ถังหมัก ถังเก็บสารเคมี หรือถังเก็บวัตถุดิบอาหาร การปนเปื้อนดังกล่าวไม่เพียงกระทบต่อคุณภาพสินค้า แต่ยังอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพผู้บริโภคหรือผู้ใช้งาน
  2. ยืดอายุการใช้งานของถัง
    การทำความสะอาดช่วยขจัดสิ่งสกปรก ตะกอน หรือคราบสนิมที่อาจเป็นต้นเหตุของการกัดกร่อนหรือสึกกร่อนภายในถัง เมื่อถังสะอาดและได้รับการบำรุงรักษาที่ดี ก็จะมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ลดต้นทุนในการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนถังใหม่
  3. ป้องกันอุบัติเหตุและความเสี่ยงในด้านความปลอดภัย
    ในหลายอุตสาหกรรม ถังถูกใช้เก็บสารเคมีหรือน้ำมันที่ติดไฟได้ง่าย หากมีคราบตกค้างหรือไอระเหยสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดการระเบิดหรือเพลิงไหม้ได้ การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีช่วยลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุและเพิ่มความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน
  4. รองรับกฎหมายและข้อบังคับ
    บางประเทศหรือบางอุตสาหกรรมอาจมีกฎหมายและข้อกำหนดเกี่ยวกับการล้างถังอุตสาหกรรม ซึ่งระบุความถี่ในการทำความสะอาดและมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตาม เพื่อคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและสุขอนามัยของผู้ปฏิบัติงาน การปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการถูกปรับหรือได้รับผลกระทบในทางกฎหมาย

ขั้นตอนการเตรียมงานก่อนทำความสะอาดถัง

  1. การประเมินความเสี่ยง
    • ตรวจสอบชนิดของสารหรือของเหลวที่เก็บภายในถัง พร้อมข้อมูลความเป็นอันตราย
    • ประเมินสภาพถัง ทั้งภายนอกและภายในว่ามีการแตกร้าว รั่วซึม หรือเป็นถังแรงดันหรือไม่
    • หากเป็นสารเคมีหรือสารไวไฟ ควรเตรียมมาตรการด้านความปลอดภัย เช่น ถังดับเพลิง อุปกรณ์ระบายอากาศ เป็นต้น
  2. การวางแผนและกำหนดวิธีการ
    • เลือกวิธีทำความสะอาด เช่น การฉีดน้ำแรงดันสูง การใช้ระบบ CIP (Cleaning in Place) การขัดถูด้วยมือ (Manual Cleaning) หรือการใช้สารเคมีเฉพาะ
    • วางแผนเรื่องเวลาและทรัพยากร เช่น จะใช้คนกี่คน อุปกรณ์ใดบ้าง ระยะเวลาการทำงานเท่าใด
  3. การขนถ่ายสารหรือของเหลวออกจากถัง
    • ระบายของเหลวออกจากถังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเก็บรักษาในถังสำรองหรือตามสถานที่ที่เหมาะสม
    • ระมัดระวังการปล่อยของเหลวลงสู่สิ่งแวดล้อม ควรปฏิบัติตามข้อกำหนดและมาตรฐานด้านการจัดการของเสีย
  4. การระบายไอระเหยหรือลดความดัน
    • หากเป็นถังที่เก็บสารไวไฟหรือเป็นถังแรงดัน ควรระบายแก๊สหรือลดแรงดันตามขั้นตอนมาตรฐาน เพื่อป้องกันการระเบิดหรืออุบัติเหตุ
    • ควรใช้ระบบระบายอากาศ หรือเครื่องดูดควัน เพื่อควบคุมไอระเหยที่เป็นอันตราย
  5. อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล 
    • เตรียมให้พร้อม เช่น ชุดป้องกันสารเคมี ถุงมือ หน้ากากกันสารเคมี รองเท้าบูทยาง แว่นตานิรภัย เป็นต้น
    • อบรมพนักงานหรือทีมงานให้เข้าใจถึงวิธีการใช้และข้อควรระวังในการทำงาน
Tank Cleaning
Tank Cleaning

วิธีการทำความสะอาดถังอุตสาหกรรมรูปแบบต่าง ๆ

1. การฉีดน้ำแรงดันสูง

  • อุปกรณ์หลัก: เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง หัวฉีดพิเศษ สายยางทนแรงดันสูง
  • ขั้นตอน:
    1. ตรวจสอบความพร้อมของเครื่องและอุปกรณ์
    2. สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
    3. เปิดเครื่องฉีดน้ำ เริ่มฉีดจากด้านบนของถังก่อนเพื่อไล่ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกลงด้านล่าง
    4. ปรับหัวฉีดหรือแรงดันตามสภาพภายในถัง ระวังอย่าให้แรงเกินไปจนทำให้ถังเสียหาย
    5. เมื่อมั่นใจว่าสิ่งสกปรกถูกขจัดออกแล้ว ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
  • ข้อดี:
    • เร็ว สะดวก และไม่ต้องใช้แรงคนมาก
    • ขจัดคราบฝังแน่นได้ดี เช่น คราบตะกอน หรือคราบไขมันที่ไม่แข็งมาก
  • ข้อควรระวัง:
    • แรงดันน้ำที่สูงอาจทำให้ผนังถังเสียหายหากมีรอยแตกร้าวอยู่เดิม
    • ควรระวังไม่ให้ละอองน้ำผสมสารเคมีกระเซ็นสู่ผู้ปฏิบัติงาน

2. การทำความสะอาดด้วยระบบ CIP (Cleaning in Place)

  • เหมาะสำหรับ:
    • ถังในสายการผลิตอาหาร เครื่องดื่ม หรือผลิตภัณฑ์ทางเภสัชกรรม ที่ต้องการมาตรฐานความสะอาดสูงมาก
    • ถังที่มีระบบท่อและหัวฉีดติดตั้งภายในถัง (Spray Ball หรือ Rotary Jet)
  • ขั้นตอน:
    1. ล้างน้ำเปล่ารอบแรกเพื่อขจัดสิ่งสกปรกพื้นฐาน
    2. เติมสารทำความสะอาด ผ่านระบบ CIP แล้วหมุนเวียนภายในถังเป็นเวลาที่กำหนด
    3. ล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพื่อชะล้างสารเคมีให้หมดจด
    4. อบแห้งหรือตรวจสอบความชื้น หากจำเป็นสำหรับการป้องกันการปนเปื้อน
  • ข้อดี:
    • ประหยัดเวลาและแรงคน ไม่ต้องเปิดฝาถังหรือเข้าไปขัดถังด้วยมือ
    • เหมาะสำหรับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
  • ข้อควรระวัง:
    • ต้องมีการออกแบบระบบท่อและหัวฉีดภายในถังให้เหมาะสม
    • ต้องเลือกสารทำความสะอาดให้ถูกชนิด และล้างออกให้หมดเพื่อไม่ให้สารตกค้างปนเปื้อน

3. การทำความสะอาดแบบ Manual

  • เหมาะสำหรับ:
    • ถังที่มีคราบสกปรกฝังแน่นมาก หรือเป็นถังที่ออกแบบเรียบง่ายและไม่สามารถใช้ระบบ CIP ได้
    • ถังขนาดเล็กที่พนักงานสามารถเข้าไปทำความสะอาดภายในได้สะดวก
  • ขั้นตอน:
    1. สวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอย่างครบถ้วน เนื่องจากอาจต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือตะกอนโดยตรง
    2. ใช้แปรง ขัดล้าง หรือล้วงสิ่งอุดตันออกจากก้นถังหรือผนังถัง
    3. ใช้น้ำยาล้างจานหรือสารทำความสะอาดที่เหมาะสมในการขัดถูคราบไขมันหรือสารเคมี
    4. ล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ รอบเพื่อขจัดสารเคมีตกค้าง
  • ข้อดี:
    • เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความละเอียดสูง โดยเฉพาะการขจัดคราบฝังแน่น
    • สามารถตรวจสอบความเสียหายของถังได้โดยตรงระหว่างทำความสะอาด
  • ข้อควรระวัง:
    • พนักงานต้องมีความชำนาญและต้องปฏิบัติงานในพื้นที่อับอากาศ (Confined Space) ตามมาตรฐานความปลอดภัย
    • ใช้เวลามากกว่าและต้องลงทุนแรงงานสูง

4. การใช้สารเคมีเฉพาะทาง

  • เหมาะสำหรับ:
    • ถังที่มีคราบน้ำมัน สารเคมีฝังแน่น ตะกรันหรือคราบไขมันที่ขจัดได้ยาก
    • ถังที่ต้องการการฆ่าเชื้อโรคเป็นพิเศษ
  • สารเคมีที่ใช้:
    • สารทำความสะอาดกรด เช่น กรดไนตริก (HNO₃) หรือกรดฟอสฟอริก (H₃PO₄) สำหรับละลายตะกรัน
    • สารทำความสะอาดด่าง เช่น โซดาไฟ (NaOH) สำหรับไขมันหรือน้ำมัน
    • สารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย (Sanitizer) ตามมาตรฐานอุตสาหกรรมอาหารหรือเภสัช
  • ข้อควรระวัง:
    • ต้องปฏิบัติตามคู่มือความปลอดภัยในการผสมสารเคมี หลีกเลี่ยงการสูดดมไอระเหยหรือสัมผัสกับผิวหนังโดยตรง
    • ต้องมีระบบระบายอากาศที่ดี และไม่ทำให้สารเคมีตกค้างลงสู่สิ่งแวดล้อม

ขั้นตอนหลังการทำความสะอาดและการตรวจสอบคุณภาพ

  1. การล้างและการกำจัดสารตกค้าง
    • ล้างถังด้วยน้ำสะอาดหลายรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีสารเคมีตกค้างอยู่
    • เก็บตัวอย่างน้ำหรือของเหลวที่ใช้ล้าง เพื่อนำไปตรวจสอบค่า pH หรือสารปนเปื้อน (หากจำเป็น)
  2. การอบแห้งและระบายอากาศ
    • หากถังต้องการให้ภายในแห้งสนิทก่อนใช้งาน (เช่น ถังเก็บเม็ดพลาสติกหรือวัตถุดิบที่ไม่ทนความชื้น) ควรอบแห้งหรือตากลม
    • ใช้พัดลมเป่าอากาศเข้าถัง เพื่อเร่งกระบวนการระเหยน้ำและลดความชื้น
  3. การตรวจสอบภายในถัง
    • ตรวจสอบผนังถังว่ามีรอยแตกร้าว สนิม หรือจุดสึกกร่อนที่อาจทำให้ถังรั่วซึมหรือเสียหายได้ในอนาคต
    • ถ่ายภาพหรือบันทึกข้อมูลสภาพภายในถังเพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบในครั้งถัดไป
  4. การทดลองใช้งานเบื้องต้น
    • หากถังผ่านการซ่อมแซมบางส่วน เช่น เปลี่ยนวาล์วหรือซีล อาจจำเป็นต้องทดสอบการรั่วซึมหรือทดสอบแรงดันก่อนนำมาใช้งานจริง
    • ตรวจสอบความสะอาดของของเหลวที่เติมใหม่ลงในถัง ว่าปราศจากการปนเปื้อนหรือกลิ่นที่ผิดปกติ
  5. การบันทึกข้อมูล
    • จดบันทึกวันที่ทำความสะอาด ชื่อผู้ปฏิบัติงาน ชนิดของสารเคมีที่ใช้ ระยะเวลาที่ใช้ในการล้างและอบแห้ง
    • บันทึกข้อค้นพบ เช่น จุดอุดตัน รอยรั่ว หรือจุดชำรุดที่ได้ดำเนินการซ่อมแล้ว ทั้งหมดนี้ช่วยให้การทำความสะอาดครั้งต่อไปมีข้อมูลอ้างอิง

แนวทางในการดูแลถังอุตสาหกรรมให้สะอาดอยู่เสมอ

  1. เลือกใช้ถังที่เหมาะสมกับสารหรือของเหลว
    • ถ้าเป็นสารเคมีรุนแรง ควรใช้ถังที่มีวัสดุป้องกันการกัดกร่อน เช่น สแตนเลสเกรดสูง
    • การเลือกวัสดุถังที่ถูกต้องแต่แรก ลดความเสี่ยงในการทำความสะอาดยากหรือต้องซ่อมบ่อย
  2. ติดตั้งระบบตรวจวัดและเซนเซอร์ภายในถัง
    • ใช้เซนเซอร์วัดระดับของเหลวหรืออุณหภูมิภายในถัง เพื่อควบคุมกระบวนการเติมหรือระบายน้ำ หรือสารเคมีได้อย่างเหมาะสม
    • เซนเซอร์บางชนิดยังตรวจจับตะกอนหรือคราบได้ ทำให้แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาทำความสะอาด
  3. สร้างวินัยในการใช้งาน
    • ห้ามนำสารอื่น ๆ มาผสมกันในถังโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาเคมีที่เป็นอันตรายและทำให้การทำความสะอาดยากขึ้น
    • ควบคุมการเติมของเหลวหรือสารในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ให้เกินขีดจำกัดของถัง
  4. กำหนดแผนการตรวจสอบและบำรุงรักษา
    • ทำตารางการตรวจสอบภายนอกและภายในถังอย่างสม่ำเสมอ
    • บันทึกข้อมูลการทำความสะอาดเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มการสะสมของคราบหรือตะกอน และปรับปรุงวิธีการทำความสะอาดในครั้งถัดไป
  5. การฝึกอบรมพนักงาน
    • ผู้ที่ทำความสะอาดถังควรเข้าใจความเสี่ยงของสารที่เก็บในถัง วิธีการใช้อุปกรณ์อย่างถูกต้อง และการตอบสนองเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    • การมีแผนฝึกอบรมและทบทวนทุกปีจะช่วยลดอุบัติเหตุในที่ทำงาน

สรุป: การทำความสะอาดถังอุตสาหกรรม Tank Cleaning

การทำความสะอาดถังอุตสาหกรรม Tank Cleaning เป็นงานที่ต้องอาศัยความรู้และทักษะเฉพาะทาง ทั้งในด้านวิศวกรรม ความปลอดภัย และเคมี การละเลยหรือทำอย่างไม่ถูกวิธีอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อผลิตภัณฑ์ อันตรายต่อพนักงาน หรือกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น การวางแผน กำหนดขั้นตอน และปฏิบัติตามมาตรฐานอย่างเคร่งครัดจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

นอกจากการทำความสะอาดถังอย่างสม่ำเสมอแล้ว โรงงานหรือสถานประกอบการควรให้ความสำคัญกับการเลือกใช้ถังที่เหมาะสมกับวัตถุดิบ จัดตารางการบำรุงรักษา และติดตามผลการตรวจสอบหลังการล้างอย่างต่อเนื่อง การลงทุนในระบบ CIP  หรือการเลือกใช้สารเคมีที่เหมาะสมกับสภาพคราบ สามารถช่วยยืดอายุการใช้งานถังและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้อย่างยั่งยืน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: Dry Ice Blasting / Abrasive Blasting

Share this post :

Related Post

บริการทำความสะอาดภายในท่อลม ท่อแอร์ ท่อดูดควัน

บริการทำความสะอาดภายในท่อลม ท่อแอร์ ท่อดูดควัน Cleaning service inside the air duct, air pipe, smoke exhaust pipe

ในยุคที่การดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ภายในอาคารเป็นสิ่งสำคัญ “ระบบท่อลม” ไม่ว่าจะเป็นท่อลมแอร์ (Air Duct) หรือท่อระบายอากาศอื่น ๆ (Smoke Exhaust Pipe) กลับถูกมองข้ามบ่อยครั้ง ทั้งที่สิ่งสกปรก แบคทีเรีย และฝุ่นละอองสามารถสะสมอยู่ภายในท่อเหล่านี้ได้จำนวนมาก จนนำไปสู่ปัญหาด้านสุขภาพ และส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศและระบายอากาศลดลง การทำความสะอาดท่อลมและท่อดูดควัน (Duct Cleaning) จึงไม่ใช่เพียงการกำจัดฝุ่น แต่เป็นการยกระดับสุขอนามัยภายในอาคาร ตั้งแต่โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน ไปจนถึงบ้านพักอาศัย

Read More »
บริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม Demolition services for buildings and industrial plants

บริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม Demolition services for buildings and industrial plants

การรื้อถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (Demolition) ไม่ใช่แค่การทุบทิ้งสิ่งก่อสร้างเก่าเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และเทคนิคที่ซับซ้อน เพื่อให้การรื้อถอนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงกฎระเบียบและข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงกล่าวได้ว่าบริการรื้องานถอนอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (Demolition Services for Buildings and Industrial Plants) คือกระบวนการสำคัญที่มีบทบาทมากในแวดวงก่อสร้างยุคปัจจุบัน บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจความสำคัญของงานรื้อถอน วิธีการวางแผน ปัจจัยความปลอดภัย เทคนิคต่าง

Read More »
งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

งานติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท Metal sheet structure and roof installation work

ในยุคที่การก่อสร้างต้องเน้นความรวดเร็ว ประหยัดต้นทุน และคงความแข็งแรง “เมทัลชีท (Metal Sheet)” ได้กลายเป็นหนึ่งในวัสดุที่ตอบโจทย์เหล่านี้ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า อาคารพาณิชย์ หรือบ้านเรือนทั่วไป การใช้เมทัลชีทในการก่อสร้างหลังคาและผนังมีข้อดีมากมาย ตั้งแต่ความเบา แข็งแรง ทนทาน ไปจนถึงการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การติดตั้งโครงสร้างและหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet Structure and Roof Installation) ไม่ใช่เรื่องเพียงแค่เอาแผ่นเมทัลชีทมายึดเรียงบนโครง

Read More »