งานทำความสะอาดห้องคลีนรูม ปัจจัยสำคัญในการรักษามาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัย ห้องคลีนรูม (Cleanroom) หมายถึง พื้นที่ที่มีการควบคุมระดับความสะอาดของอากาศ ความชื้น อุณหภูมิ และความดันให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของอนุภาคขนาดเล็ก เชื้อจุลินทรีย์ หรือสารเคมีต่าง ๆ ที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นในภาคการแพทย์ อุตสาหกรรมยา อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กุญแจสำคัญในการรักษาห้องคลีนรูมให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์และปลอดภัยได้มาตรฐาน คือการทำความสะอาดอย่างถูกต้องและเหมาะสม บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนและข้อควรระวังต่าง ๆ ในการทำความสะอาดห้องคลีนรูม
ความสำคัญของการทำความสะอาดห้องคลีนรูม
- ป้องกันการปนเปื้อน
หัวใจหลักของการใช้งานคลีนรูมคือการป้องกันไม่ให้ฝุ่นละออง สารเคมี หรือจุลินทรีย์เข้าสู่ระบบการผลิตหรือการทดลอง การดูแลความสะอาดเป็นประจำจึงจำเป็นอย่างยิ่งในการคงไว้ซึ่งสภาวะที่ปลอดภัย - คงมาตรฐานและเพิ่มคุณภาพการผลิต
หลายอุตสาหกรรมมีการกำหนดมาตรฐานสากล เช่น ISO 14644-1 หรือ GMP (Good Manufacturing Practice) ซึ่งเน้นย้ำให้ห้องคลีนรูมสะอาดอย่างเข้มงวด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการวิจัยมีความถูกต้องและแม่นยำสูง - ลดความเสี่ยงและเพิ่มความปลอดภัย
การสะสมของฝุ่น ละอองสารเคมี หรือเชื้อโรค อาจนำไปสู่อุบัติเหตุหรือปัญหาสุขภาพของบุคลากร การทำความสะอาดอย่างถูกวิธีช่วยลดโอกาสเสี่ยงอันตรายและทำให้งานดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง
อุปกรณ์และวัสดุในการทำความสะอาด
- ผ้าเช็ดสะอาด
ใช้ผ้าที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับห้องคลีนรูม ซึ่งปลอดจากเส้นใยและฝุ่น ไม่ทำให้เกิดการปนเปื้อนเพิ่มเติม - ไม้ม็อบ
สำหรับทำความสะอาดพื้น ควรใช้ไม้ม็อบที่ผลิตจากวัสดุซึ่งไม่ก่อให้เกิดไฟฟ้าสถิตและไม่ปล่อยฝุ่นละออง - น้ำยาทำความสะอาดและน้ำยาฆ่าเชื้อ
เลือกใช้น้ำยาที่ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างหรือสารระเหยเกินมาตรฐาน อาจใช้ไอโซโพรพานอล หรือเอธานอลผสมน้ำกลั่นตามความเหมาะสม - อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล
เช่น ชุดคลีนรูม, หมวกคลุมผม, หน้ากาก, ถุงมือ, ปลอกคลุมรองเท้า เพื่อลดการเกิดฝุ่นและการปนเปื้อนจากร่างกายของผู้ทำความสะอาด
ขั้นตอนการทำความสะอาดห้องคลีนรูม
- เตรียมพื้นที่และบุคลากร
- สวมชุด PPE ให้ถูกต้องตามมาตรฐานห้องคลีนรูม
- ตรวจสอบอุปกรณ์และน้ำยาทำความสะอาดให้พร้อมใช้งาน และไม่หมดอายุ
- ปิดหรือเก็บอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องมือที่ไม่ได้ใช้งาน
ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากน้ำยาทำความสะอาดหรือของเหลว อีกทั้งยังช่วยลดพื้นที่เสี่ยงต่อการปนเปื้อน - ทำความสะอาดจากด้านบนลงล่าง
- เริ่มจากการเช็ดผนัง เพดาน และมุมสูง เพื่อให้ฝุ่นละอองตกลงสู่พื้น
- จากนั้นทำความสะอาดพื้นเป็นลำดับสุดท้าย เพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนซ้ำ
- ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อตามจุดเสี่ยง
โดยเฉพาะบริเวณที่มีการสัมผัสบ่อย เช่น มือจับประตู โต๊ะปฏิบัติการ และพื้นผิวที่เปียกชื้น - ตรวจสอบระบบปรับอากาศ หรือระบบกรองอากาศ
หมั่นเช็กการทำงานของระบบระบายอากาศและเปลี่ยนแผ่นกรองตามกำหนด เพื่อให้สภาพอากาศมีความสะอาดอยู่เสมอ - บันทึกการทำความสะอาด
เมื่อเสร็จสิ้นแต่ละขั้นตอน ให้บันทึกวันที่ เวลา รายการน้ำยาที่ใช้ และบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับการตรวจสอบคุณภาพ

เทคนิคการลดการปนเปื้อนในระหว่างการทำความสะอาด
- เคลื่อนที่อย่างเป็นระบบ
กำหนดโซนทำความสะอาดให้ชัดเจน เคลื่อนที่จากโซนสะอาดที่สุดไปยังโซนที่สกปรกหรือมีความเสี่ยงที่สุด ช่วยลดการแพร่กระจายของฝุ่นหรือเชื้อโรค - เปลี่ยนผ้าหรือวัสดุที่ใช้ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อไม่ให้เกิดการกระจายเชื้อหรือสารปนเปื้อนจากบริเวณหนึ่งไปยังอีกบริเวณหนึ่ง - หลีกเลี่ยงการใช้แรงเช็ดที่มากเกินไป
การเช็ดโดยใช้แรงมากเกินไปอาจทำให้ผ้าหรือวัสดุฉีกขาด ก่อให้เกิดเศษวัสดุตกค้างในห้องคลีนรูม
การจัดการของเสียและสารเคมี
- แยกประเภทของของเสีย
ขยะที่เปื้อนสารเคมี สารไวไฟ หรือสารชีวภาพต้องได้รับการจัดเก็บและกำจัดตามมาตรการความปลอดภัยและข้อกำหนดของแต่ละองค์กร - ปิดภาชนะบรรจุสารเคมีให้แน่นหนา
ควรเก็บในพื้นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกและมีป้ายเตือนชัดเจน - ระบบบำบัดหรือตรวจสอบการรั่วไหล
หากมีระบบบำบัดน้ำเสียหรือระบบกำจัดอากาศเสีย ต้องตรวจสอบการรั่วไหลและการทำงานอย่างสม่ำเสมอ
สรุปเกี่ยวกับ งานทำความสะอาดห้องคลีนรูม
ห้องคลีนรูมเป็นหัวใจสำคัญในหลายอุตสาหกรรมที่ต้องการความบริสุทธิ์และความปลอดภัยสูง การทำความสะอาดอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากลจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ตั้งแต่การเลือกใช้อุปกรณ์และน้ำยาที่เหมาะสม ไปจนถึงขั้นตอนและการจัดการของเสียอย่างถูกวิธี การฝึกอบรมและตรวจสอบคุณภาพของบุคลากรก็มีบทบาทสำคัญในการรักษามาตรฐานนี้ให้คงอยู่ในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ปรับปรุงซ่อมแซมห้องปฏิบัติการและห้องคลีนรูม